วิธีเลือกน้ำหอมปรับอากาศในบ้าน


วิธีเลือกน้ำหอมปรับอากาศในบ้าน


เลือกจากจุดประสงค์ในการใช้

หากใช้บรรจุัณฑ์เป็นเกณฑ์ น้ำหอมปรับอากาศในบ้านจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือ “แบบสเปรย์” และ “แบบตั้งโต๊ะ” ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งาน


  • แบบสเปรย์ : ฉีดปุ๊บหอมปั๊บ น้ำหอมปรับอากาศในบ้านประเภทนี้มีแพ็กเกจสะดวกต่อการใช้งาน เมื่อฉีดแล้วจะเห็นผลทันที ช่วยให้กลิ่นฟุ้งกระจายได้ง่ายปรับความรู้สึกของคนที่อยู่ในห้องให้ผ่อนคลายเหมาะกับการใช้ในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือใช้ในยามที่มีแขกมาเยือนแบบกะทันหัน แต่ประเภทนี้กลิ่นจะอยู่ได้ไม่นานดังนั้นจึงควรฉีดขณะที่คุณนั่งอยู่ที่ห้องนั้น ๆ หรือใช้ควบคู่ไปกับแบบตั้งโต๊ะ



 

  • แบบตั้งโต๊ะ : กลิ่นอยู่ทนยาวนานและมีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลาย 

    แบบตั้งโต๊ะถือเป็นประเภทที่ใช้งานง่ายที่สุดแค่วางทิ้งไว้ในที่ ๆ ต้องการ โดยกลิ่นจะค่อย ๆ ระเหยไปในอากาศอย่างช้า ๆ ทำให้หอมทนยาวนาน มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้เช่นแบบน้ำมันหอมระเหย, แบบเจลเนื้อแข็ง, แบบก้านไม้หอม, แบบเทียนหอม ฯลฯ นอกจากนี้หลาย ๆ ตัวยังมีดีไซน์สวยงามใช้เป็นของประดับตกแต่งห้องไปในตัวได้อีกด้วย โดยเฉพาะแบบก้านไม้หอมและแบบเทียนที่ได้รับความนิยมมากเพราะช่วยให้ห้องดูสวยหรู

    ปัจจุบันยังมีอีกประเภทที่น่าสนใจคือแบบ Plug-in หรือแบบที่มาในรูปเครื่องพ่นน้ำหอมอัตโนมัติซึ่งติดตั้งระบบเซ็นเซอร์อยู่ภายใน เมื่อตรวจจับพบการเคลื่อนไหวของคนในบริเวณนั้นระบบจะปล่อยกลิ่นออกมา อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีให้เลือกหลากหลายแต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยเพราะแบบเทียนต้องจุดไฟ ส่วนแบบ Plug-in ก็ต้องใช้ไฟฟ้า

 

เลือกจากความสามารถในการดับกลิ่น หากใช้ “กลิ่น” ในการจัดประเภท น้ำหอมมักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นคือแบบกลิ่นหอมเพื่อสร้างบรรยากาศ และแบบดับกลิ่นที่เหมาะกับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงหรือผู้สูบบุหรี่ ในบ้าน ซึ่งทั้งสองแบบมีวิธีการเลือกที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยแบบแรกจะเลือกง่ายกว่าเพียงแค่คุณเลือกกลิ่นที่ชอบ ในขณะที่แบบที่สองควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารพวก ไอออนของธาตุเงิน, ยูคาลิปตัส, มิ้นท์ เป็นต้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคและหากใช้ร่วมกันกับชนิดสเปรย์ก็จะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นมากยิ่งขึ้น

สำหรับแบบตั้งโต๊ะให้เลือกดีไซน์จากตำแหน่งที่ต้องการวาง เชื่อว่านอกจากกลิ่นและส่วนประกอบแล้วสิ่งที่หลายคนใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือก คือ “ดีไซน์” จึงควรคำนึงถึงสถานที่ที่จะนำไปตั้งเป็นหลักแล้วดูว่าชิ้นใดเหมาะสมเข้ากับเครื่องเรือนที่บ้านของเรา โดยพยายามเลือกชิ้นที่ดีไซน์ส่วนฐานใหญ่เพราะวางได้มั่นคง ชนตกแตกยากกว่า

น้ำหอมทั่วไปที่ส่งกลิ่นหอมควรตั้งที่ตำแหน่งสูง ๆ เพื่อให้กลิ่นกระจายไปทั่วทั้งห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่สำหรับน้ำหอมเพื่อการดับกลิ่นควรเลือกวางในตำแหน่งต่ำ ๆ เพราะจะช่วยให้กลิ่นฟุ้งกระจายได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามหากบ้านไหนมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงให้พยายามวางในตำแหน่งที่พ้นมือเด็กหรือตำแหน่งที่ไม่ได้รับการสั่นสะเทือนได้ง่ายหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบเจลแข็งที่แม้ตกก็ไม่หกเลอะเทอะเพื่อความปลอดภัยภายในบ้าน

เลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถปรับระดับความแรงของกลิ่นได้

เรื่องของ “กลิ่นหอม” ถือเป็นเรื่องซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเพราะบางกลิ่นเช่นกลิ่นวนิลาหรือกลิ่นจำพวกมัสค์หากเข้มข้นมากเกินไปอาจทำให้บางคนรู้สึกเวียนหัวได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับระดับความแรงของกลิ่นได้

ตามปกติแล้วประเภทของน้ำหอมปรับอากาศที่สามารถปรับระดับกลิ่นได้จะเป็นพวกน้ำมันหอมระเหยหรือแบบเจลแข็งที่ปรับโดยความมากน้อยของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่โดนอากาศ หรือแบบก้านไม้หอมที่ปรับโดยจำนวนไม้ก้านหอมที่ปักเอาไว้ ลองเลือกแบบที่ตนเองใช้สะดวกดู


 

ที่มา https://www.my-best.in.th

 

 

    ทั้งนี้ทางบริษัท เฟลเวอร์ แอนด์ อะโรเมติก กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสารแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหาร ภายใต้การควบคุมด้วยระบบมาตรฐานคุณภาพ ISO22000:2018   มีผลิตภัณฑ์สารแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหารที่หลากหลายแนว เหมาะสำหรับสินค้าในหลายๆประเภท เช่น ซอส เครื่องดื่ม  ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ และไอศกรีม  เป็นต้นแล้ว ทางบริษัทฯยังมีสินค้าใหม่ คือ กลิ่นน้ำหอม FRAGRANCE คือ สารจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ที่ให้กลิ่นต่อผลิตภัณฑ์

 

     หากลูกค้าท่านใด มีความประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เราผลิตสารปรุงแต่งอาหาร ทั้งกลิ่นและรสชาติอาหาร หรือกลิ่นน้ำหอม สามารถติดต่อทางบริษัทฯของเราได้   ทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับทุกท่าน หรืออุตสาหกรรมอาหารต่างๆ ที่สนใจหรือมองหาสารแต่งกลิ่นและรสชาติที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมเพื่อเสริมสร้างให้ความโดดเด่นด้านกลิ่นและรสชาติให้กับผลิตภัณฑ์ของท่าน