8. หลักการใช้ยาตา ? ใช้แบบไหนให้ถูกต้องและปลอดภัย

8. หลักการใช้ยาตา – ใช้แบบไหนให้ถูกต้องและปลอดภัย

ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบางและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกายของเราทำให้เราสามารถมองเห็น รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว สามารถเดินเหินไปในที่ต่างๆและทำกิจกรรมได้อย่างไม่ขัดข้อง ดังนั้นเมื่อมีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ยาอย่างถูกต้องเพื่อที่จะบรรเทาอาการหรือรักษาอาการเจ็บป่วยของตาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ในการใช้ยาตา มีหลักการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

ถูกโรค

เนื่องจากยาสำหรับโรคตามีหลายชนิดที่ใช้กับโรคและอาการที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น น้ำตาเทียม ยาลดการระคายเคือง ยาแก้แพ้ ยาหดหลอดเลือด ยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส ยาลดการอักเสบ ยาขยายม่านตา และอื่นๆ มีทั้งที่เป็นตัวยาเดียวและที่มีตัวยาหลายๆชนิดผสมกันอยู่ในผลิตภัณฑ์เดียว ดังนั้นถึงแม้ว่าจะหาซื้อได้ง่ายแต่การใช้ที่ผิดกับโรคก็อาจจะก่อให้เกิดอาการผิดปกติและเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยาบางตัวมีข้อห้ามกับผู้ป่วยที่เป็นโรคบางประเภทดังนั้นจึงไม่ควรที่จะซื้อยารักษาโรคด้วยตนเอง และอย่าใช้ยารักษาตาของคนอื่นที่คิดว่าเป็นโรคเดียวกัน

ถูกเวลา

ควรหยอดยาตามเวลาที่แพทย์สั่งเพื่อประสิทธิผลที่สูงสุด ตัวอย่างยาตาที่ต้องหยอดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น ยารักษาโรคต้อหิน หรือยที่ต้องหยอดตรงเวลา เช่น ยาต้านไวรัส

ถูกขนาดและวิธี

ปกติตาของคนเราจะมีความจุของเหลวประมาณ 0.01 มิลลิลิตร การใช้ยาแต่ละครั้งใช้แค่ 1 – 2 หยดเท่านั้น และในการใช้ยาตาทุกชนิด มีข้อควรระวังคือขณะใช้อย่าให้ปลายหลอดหรือหลอดบีบถูกต้องส่วนใดส่วนหนึ่งของตา เพราะอาจจะมีเชื้อโรคเข้าไปปนเปื้อนในยาได้ และภายหลังจากเปิดใช้แล้วควรปิดฝาให้สนิท

ถูกลำดับขั้น

ในกรณีที่ต้องใช้ยาตาหลายชนิดร่วมกัน หากเป็นยาหยอดตาทั้งสองชนิดให้เว้นระยะเวลาในการหยอดตาแต่ละชนิดให้ห่างกันประมาณ 5 นาที แต่หากต้องหยอดตาและป้ายตาในเวลาเดียวกัน ให้หยอดตาก่อนแล้วจึงค่อยป้ายตา

เก็บรักษาถูกที่

ต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ยาตาทุกชนิดต้องอยู่ในตู้เย็น การเก็บรักษายาตาบางชนิดห้ามเก็บในตู้เย็น บางชนิดสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้ซึ่งการเก็บในตู้เย็นนั้นจะต้องเก็บไว้ในช่องธรรมดา ไม่ใช่ช่องแช่แข็ง หรือช่องบานประตูของตู้เย็น ( ที่เป็นช่องสำหรับใส่ไข่หรือใส่น้ำ )

ที่สำคัญคือยาตาทุกชนิดหากเปิดใช้ยาแล้ว จะมีอายุเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น หากยังมียาเหลืออยู่ ก็ไม่ต้องเสียดาย ให้ทิ้งไป ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากข้างขวดก็ตาม