พุทธลักษณะ เป็นพระเครื่องปางลีลาศหรือ”พระเดิน” ซึ่งนักพระเครื่องสมัยก่อนเห็น ลักษณะการย่างก้าวพระบาทเป็นการ”เขย่ง” พระบาท จึงเรียกกันว่า“กำแพงเขย่ง”และในรายงานกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 มหาดเล็กเรียกพระพิมพ์นี้ว่า”พระลีลาศ”ขอเรียกตาม ฉบับดั้งเดิมด้วยซึ่งความจริง”พระลีลาศ”หรือ
“พระลีลา” ที่นิยมเรียกกันในปัจจุบันหรือ”กำแพงเขย่ง” นั้นมีหลายแบบ หลายพิมพ์ด้วยกันเช่น “เม็ดขนุน” “พลูจีบ” “กำแพงบิด” รวมทั้งว่านหน้าเงินหน้าทอง หน้านากและหน้าขาว ซึ่งได้กล่าวมาแล้ว ฉะนั้นกำแพงลีลาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพระลีลาดังกล่าวมาแล้วข้างต้น มีทั้ง “เขย่งซ้าย” และ “เขย่งขวา” มีหลายแบบหลายพิมพ์โดยทั่วไปจะมี 2 แบบ คือแบบมีเรือนแก้วกับแบบที่ไม่มีเรือนแก้วส่วนมากเป็นพิมพ์ใหญ่ซึ่งเรียกว่า”กำแพงคืบ” แบบที่มีสัณฐานคล้ายกับอะไรมากก็เรียกตามลักษณะที่คล้ายสิ่งนั้น เช่นเรียกพระที่มีพื้นฐานใหญ่เนื้อหนามาก สัณฐานคล้ายกล้วยปิ้งที่ทับแล้วว่า “กำแพงกล้วยปิ้ง” และพื้นฐาน
สัณฐานคล้าย “ฝักดาบ” ก็เรียกว่า “กำแพงฝักดาบ” และเรียกกำแพงลีลาพิมพ์เล็ก ๆ ว่า ”เขย่งเข็มเพชร”บ้าง ตามแต่จะพิจารณาเรียกกันมีทั้งเนื้อดิน ชิน ว่าน และดีบุก ตลอดจนสัมฤทธิ์ก็มี เนื้อดินมีหลายประเภท มีทั้งชนิดหยาบแกร่ง ละเอียดแกร่ง และนุ่ม แต่ส่วนมากเป็นเนื้อละเอียดนุ่ม มีว่านดอกมะขามโดยทั่วไป
ขนาด มีหลายขนาด หลายพิมพ์ กล่าวโดยประมาณว่าขนาดเล็กที่สุดประมาณ 3 ซม.เศษ ถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ 1 คืบ ส่วนความกว้างจะได้สัดส่วนพองามกับความสูงเสมอ
พุทธคุณ คำว่ากำแพงเขย่งนำชื่อเสียงในเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ
ในเชิงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดตลอดจนสัมฤทธิ์ผลในด้านต่าง ๆ มาก่อนพระเครื่อง กำแพงเพชร อื่นใดก็ว่าได้
ที่มา : สมาคมกีฬาจังหวัดกำแพงเพชร. พระกรุเมืองกำแพง : มรดกประวัติศาสตร์กำแพงเพชร. ม.ป.พ.,2549. |