คุณสมบัติของก๊าซเอ็นจีวี
1. อุณหภูมิติดไฟของก๊าซเอ็นจีวีนั้น สูงกว่าเชื้อเพลิงอื่นๆ
เป็นผลให้ลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้เมื่อก๊าซรั่วหรืออุบัติเหตุ
2. ก๊าซเอ็นจีวี ถูกจัดเก็บอยู่ในรูปไอ ซึ่งมีแรงดันสูง
จึงทำให้ไม่มีอากาศเข้าไปผสม จึงไม่ก่อให้เกิดการผสมกันระหว่างก๊าซ จึงลดโอกาสในการติดไฟและระเบิดได้
3. ก๊าซเอ็นจีวี
ก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด และไม่ก่อให้เกิดการสกปรกของน้ำมันเครื่อง จึงสามารถยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องได้
4. ก๊าซเอ็นจีวี ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างใด ทำให้การจุดระเบิดสะอาดหมดจด
และยืดอายุการใช้งานได้
5. ก๊าซเอ็นจีวี ไม่ส่งผลเสียต่อลูกสูบ และกระบอกสูบ ทำให้เกิดการหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพ
จึงส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
6. ก๊าซเอ็นจีวี มีออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน
จึงส่งผลให้การสตาร์ทและการทำงานของเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์มากขึ้น
7. ก๊าซเอ็นจีวี
ก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น จึงช่วยลดมวลไอเสีย และส่งผลต่อการลดมลพิษในอากาศโดยตรง
8. มีสัดส่วนของคาร์บอนน้อยกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นและมีคุณสมบัติเป็นก๊าซ
ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น และปริมาณไอเสีย
ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ มีปริมาณต่ำกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น
9. เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดควันดำหรือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน
จึงสามารถลดปัญหามลพิษทางอากาศซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
10. เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถผลิตได้ในประเทศ
จึงมีราคาถูกกว่าน้ำมัน และสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการลดการนำเข้าน้ำมันดิบ 11. เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
เพราะมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วไหล ก๊าซเอ็นจีวีจะไม่สะสมอยู่บนพื้นดินจนเกิดการลุกไหม้เหมือนเชื้อเพลิงอื่นๆ
และอุณหภูมิที่จะทำให้ก๊าซเอ็นจีวีสามารถลุกติดไฟในอากาศเองได้ก็ต้องสูงถึง 650 องศาเซลเซียส
ประโยชน์(เพิ่มเติม)จากก๊าซธรรมชาติ(NGV)
-
ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า
-
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
-
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในระบบ Co-generation
-
ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ
ที่เรียกว่า ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (Natural Gas for Vehicles : NGV)
|