ฃ วนิลา เป็นพืชในวงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae) นับเป็นไม้เลื้อยที่เติบโตได้ด้วยการเลื้อยเกาะกับหลักหรือต้นไม้อื่นๆ (ต้นไม้ที่เป็นหลักของวนิลาได้แก่ ต้นกาแฟ ต้นขนุน ต้นมะม่วงหิมพานต์) วนิลาชอบภูมิอากาศร้อนชื้น ดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี
วานิลลามีมากกว่า 110 พันธุ์ แต่อย่างไรก็ตามมีแค่พันธุ์ Vanilla Planifolia พันธุ์เดียวเท่านั้น ที่เป็นวานิลลาพันธุ์ที่ใช้ในเชิงการค้าซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99 และมีเพียง 2 สายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นของกลิ่นหอมและรสชาติ นั่นก็คือพันธุ์ Bourbon Vanilla และ Tahitian Vanilla คือ Bourbon Beans เหมาะกับการทำอาหาร ทำขนม เบเกอร์รี ลักษณะของฝักวานิลลาพันธุ์นี้ จะมีฝักที่อวบ ยาว สีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นหอม เมล็ดในฝักมีปริมาณมาก และ Tahitian Vanilla ปลูกที่เกาะตาฮิติซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก จะให้ฝักวานิลลาที่มีลักษณะโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นหอมมากกว่ารสชาติ จึงเหมาะในการใช้ทำอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสำอางค์ต่าง ๆ อีกทั้งฝักก็จะสั้นกว่าพันธุ์ Bourbon Beans
การใช้ประโยชน์ของวนิลาได้เผยแพร่ไปในทวีปยุโรปและอเมริกา จน เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการแต่งกลิ่นอาหารและขนมหวานชนิดต่างๆ เช่น ไอศกรีม ขนมเค้ก คัสตาร์ด พุดดิ้ง คุกกี้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการใช้วนิลาในการแต่งกลิ่นน้ำหอมและทำยาอีกด้วย
กลิ่นหอมจากฝักวนิลาเป็นกลิ่นของสารประกอบซึ่งเป็นสารหอม หลายๆ ชนิด เกิดขึ้นในระหว่างการบ่มฝักวนิลา สารที่พบมากคือ วานิลิน (vanillin) จากการค้นคว้าด้านเคมี และพบว่าต้นทุนการสังเคราะห์วานิลิน ราคาถูกกว่าวานิลินจากธรรมชาติมาก
ถึงแม้การปลูกวนิลาในทวีปอเมริกากลางนั้นจะให้ผลดี แต่เมื่อนำไปปลูกที่ประเทศอื่น กลับไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการถ่ายละอองเรณูของดอกวนิลาตามธรรมชาตินั้นเกิดได้ยาก แต่ต่อมามีการค้นพบการถ่ายละอองเรณูเทียม ทำให้ประเทศเม็กซิโกไม่สามารถเป็นผู้ผูกขาดการผลิตวานิลลาได้ต่อไป จึงได้มีการปลูกวนิลาในเกาะเรอุนยอง เกาะมาดากัสการ์ หมู่เกาะโคโมโร ส่วนในประเทศเขตร้อนมีการปลูกในประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย ตาฮิติ แต่คุณภาพของวนิลาที่ผลิตจากประเทศในเขตร้อน จะได้ผลผลิตต่ำกว่าผลผลิตจากเกาะมาดากัสการ์ หมู่เกาะโคโมโร และเกาะเรอุนยอง อย่างไรก็ดี ไม่ใช่วานิลลาทุกชนิดเสมอไปที่ฝักจะมีกลิ่นหอม ทำให้วานิลลาเป็นเครื่องเทศที่มีราคาสูงเป็นอันดับสองของโลกรองมาจากเซฟฟรอน และฝักวานิลลาส่วนใหญ่จะมาจากประเทศมาดากัสการ์ แสดงให้เห็นว่าประเทศมาดากัสการ์ส่งออกวานิลลาเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ต้นวนิลาจะเริ่มออกดอกเมื่อมีอายุประมาณ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นวนิลาด้วย และจะให้ผลผลิตสูงสุดในขณะที่มีอายุประมาณ 7 – 8 ปี
ลักษณะของดอกวนิลา จะออกเป็นช่อ หลังจากผสมเกสรแล้วจะได้ฝัก ซึ่งฝักวนิลาสีเขียวยังไม่มีกลิ่นหอม ต้องรอจนกว่าฝักวนิลาเปลี่ยนจากสีเขียวเป็น สีเหลือง และแตกออกกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีช็อกโกเลต ฝักวนิลาจะมีกลิ่นหอม ซึ่งจะหอมมากขึ้นอีกเมื่อฝักสีเข้มลงเรื่อยๆ จนในที่สุดหมดกลิ่นไปเนื่องจากสารหอมระเหยไปจนหมด ฉะนั้นการเก็บฝักวนิลาเพื่อนำมาบ่ม เป็นการเร่งให้เกิดสารที่มีกลิ่นหอม ขั้นตอนในการบ่มฝักวนิลาคือ หยุดการเปลี่ยนแปลงของพืชสดและกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ในฝัก เพื่อสร้างสารที่มีกลิ่นหอม ลักษณะของฝักหลังจากผ่านกระบวนการนี้จะมีสีน้ำตาล
(ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต)
|