|
ประกันวินาศภัย คือ การที่ผู้รับประกันภัยตกลงจะชดใช้สินไหมทดแทนหากเกิดความสูญเสีย หรือเสียหายจากภัยต่างๆ ซึ่งความเสียหายนั้น สามารถประเมิณค่าเป็นตัวเงินได้ |
|
1. ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) |
|
1.1 ประกันอัคคีภัยแบบทั่วไปให้ความคุ้มครอง
|
ไฟไหม้ |
|
ฟ้าผ่า |
.. |
การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประดยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ไม่รวามถึงความเสียหายจากการระเบิดของแก๊สจากแผ่นดินไหว |
|
ความเสียหายจากภัยเพิ่มเติมที่ได้ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ประกันภัย เช่น ภัยน้ำท่วม ภัยลมพายุ และภัยต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น |
|
|
2.ประกันภัยรถยนต์ ( Automobile Insurance ) |
คือ การประกันภัยเพื่อความคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ประกอบด้วย |
.. |
ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ได้แก่ ความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย หรืออนามัย และทรัพย์สิน |
|
รถยนต์เสียหาย สูญหาย ไฟไหม้ |
|
ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย เช่น การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันค่ารักษาพยาบาล การประกันตัวผู้ขับขี่ |
|
|
3.ประกันภัยทางทะเล และการขนส่ง ( Marine Insurance ) |
คือ การประกันภัยความเสียหายของตัวเรือ สินค้า และทรัพย์สินที่อยูระหว่างการขนส่งในประเทศ และระหว่างประเทศ |
3.1 |
การประกันภัยการขนส่งทางทะเล : แบ่งความคุ้มครอง เป็น 3 แบบ |
|
|
Institute Cargo Clauses (C) |
|
คุ้มครองความสูญเสียที่มีต่อสินค้าจากภัยต่างๆ ได้แก่ ไฟไหม้ ระเบิด เรือเกยตื้น เรือจม พลิกคว่ำ เรือชนกัน การขนส่งสินค้าลงจากเรือ ณ ท่าเรือหลบภัย ความเสียหายที่เกิดกับส่วนรวม หรือสินค้าถูกโยนลงทะเล |
|
Institute Cargo Clauses (B) |
|
ให้ความคุ้มครองเหมือนกับหมวด (C) แต่ขยายรวมถึงแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฟ้าผ่า สินค้าถูกคลื่นซัดตกทะเล น้ำเข้าระวาง |
|
Institute Cargo Clauses (A) |
|
ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยทุกชนิดที่ไม่ได้ระบุไว้ใน ข้อยกเว้น |
|
|
3.2 |
การประกันภัยตัวเรือ |
|
ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเรือ รวมถึงเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนเรือและยังขยายความคุ้มครองไป ถึงความรับผิดจากการชนกัน |
|
|
|
|
3.3 |
การประกันสินค้าที่ขนส่งภายในประเทศ |
|
เป็นการประกันภัยความสูญเสียหรือความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งภายในประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ แบ่งออกเป็น 2 แบบ |
|
|
แบบเสี่ยงภัยทุกชนิด |
|
ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายโดยสิ้นเชิงหรือบางส่วนของสินค้าที่เอาประกันภัยอันเกิดจากจากอุบัติเหตุ |
|
แบบระบุภัย |
|
อัคคีภัย การเกิดระเบิด หรือฟ้าผ่า |
|
ยานพาหนะ ชนกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นอกยานพาหนะนั้น |
|
เรือจมหรือเกยตื้น เครื่องบินตก รถไฟตกราง เป้นต้น |
|
ภัยเพิ่มพิเศษอื่นๆ |
|
|
|
|
4. ประกันภัยเบ็ตเตล็ด ( Miscellaneous Insurance) |
คือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายอันเนื่องมาจากภัยอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากการคุ้มครอง ของรายการประกันรถยนต์การประกันภัยทางทะเล การประกันอัคคีภัย และการประกันชีวิต เช่น |
4.1 |
การประกันภัยอุบัติเหตุ |
|
ให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย การเสียชีวิตการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ อวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง หรือทุพพลภาพถาวร เป็นต้น อันเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น |
4.2 |
การประกันสุขภาพ |
|
ให้ความคุ้มครอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัยไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ได้แก่ผู้เอาประกันภัย เช่นค่าใช้จ่ายกรณี ที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังการเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายสำหรับ การรักษาที่คลีนิค หรือแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายจ่ายในการคลอดบุตรเป็นต้น |
4.3 |
การประกันภัยโจรกรรม |
|
ให้ความคุ้มครองแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ |
|
แบบ จร.1 |
|
ลักทรัพย์ที่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ |
|
|
ความเสียหายต่อตัวอาคาร |
แบบ จร.2 |
|
ลักทรัพย์ที่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ |
|
|
ชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์ |
|
|
ความเสียหายต่อตัวอาคาร |
แบบ จร.3 |
|
ลักทรัพย์ที่ไม่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ |
|
|
การชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ |
|
|
ความเสียหายต่อตัวอาคาร |
|
4.4 |
การประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก |
|
|
ให้ความคุ้มครอง การเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยของบุคลใดๆ ที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฏหมาย |
|
ความสูญเสีย หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลใดๆ ที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย ฯลฯ |
|
|
|
ประโยชน์ของการประกันภัย Insurance Benifit |
|
|
|
1. |
ประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัย |
|
|
ให้ความคุ้มครองต่อบุคคล ครอบครัวและทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย |
|
ปลูกฝังให้เกิดนิสัยประหยัด และเกิดการออม |
|
2. |
ประโยชน์ต่อธุรกิจ |
|
|
ช่วยให้เกิดความมั่นคงในการประกอบธุรกิจ |
|
ช่วยเพิ่มประสิทธืภาพในการดำเนินธุรกิจ |
|
ช่วยในการขยายเครดิต |
|
ช่วยให้เกิดเสถียรภาพในต้นทุนการผลิต |
|
ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจบางประเภทให้เติบโตขึ้น |
|
3. |
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และสังคม |
|
|
ระดมทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ |
|
ลดภาระแก่สังคม และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสงเคราะห์จากภาครัฐ |
|
|