พระเครื่องเมืองกำแพงเพชร
พระเครื่องกำแพงเพชร มีมากมายหลายชนิด เรียกชื่อต่าง ๆ กันเช่น
1.เรียกชื่อตามสถานที่ หรือกรุที่พระเครื่องบรรจุอยู่ เช่น กำแพงทุ่งเศรษฐี
ใช้เรียกชื่อพระเครื่องทุกชนิดที่ได้จากบริเวณเมืองเก่าฝั่งตะวันตกที่เรียกกันว่า
“ทุ่งเศรษฐี” และวงการนักพระเครื่องทั่วไปเมื่อกล่าวถึงพระกำแพงเพชรหรือพระที่อื่นคล้ายพระกำแพงเพชร ก็เติมคำว่า “กำแพง” ลงข้างหน้า ชื่อพระนั้น ๆ เช่น เรียกพระลีลาศ(เดิน)ของจังหวัดกำแพงเพชรว่า “กำแพงเขย่ง”เรียกพระสุพรรณว่า “กำแพงเขย่งสุพรรณ” พระกำแพงเพชรที่มีลักษณะคล้ายกับพระอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงมาก่อนเรียกชื่อตามนั้น เช่น กำแพงท่ามะปราง
2.เรียกชื่อตามพุทธลักษณะอาการขององค์พระ เช่น กำแพงลีลาส (หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “กำแพงเขย่ง”) เพราะดูอาการ เดินนั้นเหมือนเขย่งพระบาทข้างหนึ่ง) กำแพงประทานพร กำแพงนาคปรก เป็นต้น
3. เรียกตามสัณฐานของพระ เช่น กำแพงเม็ดขนุน กำแพงพลูจีบ กำแพงกลีบจำปา กำแพงกลีบบัว กำแพงเม็ดมะเคล็ด
4. เรียกตามลักษณะประภามณฑล หรือซุ้ทของพระ เช่น กำแพงซุ้มกอ กำแพงซุ้มแก้ว
5. เรียกตามเนื้อวัสดุที่สร้าง เช่น ว่านหน้าเงิน ว่านหน้าทอง และกำแพงสำริด
6. เรียกชื่อตามจำนวนพระ เช่น กำแพงสอง กำแพงสาม กำแพงห้าพระองค์ กำแพงสิบชาติ กำแพงห้าร้อย เป็นต้น
ต่อไปนี้เป็นรายชื่อพระเครื่องชนิดต่าง ๆ เท่าที่ได้สืบถามและเคยเห็นมาโปรดอย่าถือว่าเปป็นที่ยุติ หรือว่านอกจากนี้ไม่มีอีกแล้วอาจจะมีผู้พบแบบอื่น ๆ
อีกในโอกาสต่อไป พระเครื่องต่าง ๆ ของกำแพงเพชรมีดังนี้
พระกำแพงซุ้มกอ
พุทธลักษณะ เป็นพระปางสมาธิที่งดงามอันดับ 1 ของพระนั่งทุ่งเศรษฐีวงการทั่วไปยกย่องให้เป็นพระเครื่องอันดับ 1 และนับเป็นองค์ประกอบ ของพระเครื่องเบญจภาคี ได้องค์หนึ่ง มีทั้งเนื้อดิน ชิน ว่าน พุทธลักษณะมีทั้งสมาธิเพชร และสมาธิราบ โดยเฉพาะแบบพิมพ์ใหญ่มีพุทธลักษณะเหมือนพระพุทธรูปที่มีศิลปะของเชียงแสนผสมสุโขทัย คือ องค์พระอวบอ้วน
พระอุระ ผึ่งแลดูเด่นสง่างามแบบเชียงแสน พระนาภีเรียว การทิ้งพระพาหา และการขัดสมาธิ งดงามแบบสุโขทัย องค์พระมีประภามณฑลรอบพระเศียรคล้ายรูปทรงของตัว ก หรือรูปทรงรัศมีวงกลมของพระพุทธรูปช่างชาวโยนกและประภามณฑลรูปเปลวเพลิง ตามลักษณะประภามณฑลของพระพุทธรูปฝีมือช่างมคราฐ ซึ่งเข้าใจว่า จะพัฒนามาจากแบบครึ่งวงกลมของฝีมือช่างชาวโยนกหรือแบบพระพุทธรูปคันธาราฐ จึงมีลักษณะคล้ายดอกบัว หรือทรงตัว ก.
บ้าง จึงเรียกกันว่า “ซุ้มกอ” ตามลักษณะประภามณฑล ชนิดเนื้อดิน เนื้อส่วนมากละเอียด นุ่ม มีว่านดอกมะขามปรากฏอยู่ทั่ว
พุทธลักษณะโดยทั่วไป แตกต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเป็น 2 แบบคือ
1. แบบที่ไม่มีลายกนก
2. แบบที่มีลายกนก
พุทธลักษณะพระกำแพงซุ้มกอ ที่แตกต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดมี 2 แบบคือ
1. แบบที่ไม่มีลายกนก แบบนี้เป็นพระชนิดเนื้อ สีดำ และสีเขียว ส่วนสีแดงก็มีบ้าง ซุ้มกอสีแดงที่ไม่มีลายกนกนี้พิมพ์ใหญ่มีน้อยมาก ปรากฏว่ามีผู้ได้จากวัดทุ่งสวนท้ายเมืองแห่งเดียว ส่วนพิมพ์บางหรือ พิมพ์เล็กที่ปรากฏว่าไม่มีลายกนกก็มีมากเหมือนกันแบบที่ไม่มีลายกนกนี้ส่วนมากเป็นซุ้มกอสีแดง ซุ้มกอดำเป็นแบบที่มีประภามณฑล คล้ายรูปทรง ตลอดจนประภามณฑลคล้ายพระพุทธรูปคันธาราฐมากที่สุด
2. แบบที่มีลายกนก แบบนี้ เข้าใจว่าจะพัฒนาจากแบบที่ฐานและ เพิ่มการเปล่งรังสีออกพระวรกายโดยทำเป็นรูปลายกนกอย่างงดงามโดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่ ช่อง พระพาหาลึกทำให้พระอุระและองค์พระซึ่งแลดูเด่นนูนอยู่แล้วดูงามสง่ายิ่งขึ้นนอกจากชนิดพิมพ์บางเท่านั้นที่ช่องพระพาหาตื้นแบบนี้บางพิมพ์เป็นสมาธิเพชร แต่ส่วนมากทำเป็นสมาธิราบ
ขนาด มีอยู่ 3 ขนาด คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กทั้ง 3 พิมพ์นี้ ยังมีขนาดย่อมเยา แตกต่างกันไปอีก และพิมพ์ที่มีขนาดเล็กที่สุด เรียกว่า “ซุ้มกอคะแนน”
พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ มีขนาดโยประมาณดังนี้ ส่วนสูงประมาณ 2.5 ซม.
กว้างประมาณ 1.8 ซม. เนื้อดินพิมพ์ใหญ่ หนาประมาณ 0.8 ส่วนเนื้อชินค่อนข้างบาง ซุ้มกอคะแนนสูงประมาณ 1.5 ซม. บางมาก
พุทธคุณ เป็นยอดเมตตามหานิยม โภคทรัพย์ โชคลาภและความเป็นสิริมงคล
|