ส่วนด้านที่สองคือเกี่ยวข้องกับคน ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าอันเนื่องมาจากความแตกต่างของบุคคล ที่มีพื้นฐานแตกต่างกันทุกคน เริ่มตั้งแต่ เพศ อายุ สุขภาพ ครอบครัว บุคลิกภาพ ทัศนคติ ค่านิยม สถานภาพสมรส อาชีพ สถานะทางสังคม ระดับการศึกษา รูปแบบการใช้ชีวิต เป้าหมายชีวิต เศรษฐกิจส่วนตน แนวคิดทางการเมือง กิจกรรมที่สนใจ งานอดิเรก เป็นต้น ซึ่งทำให้คนเรามีความซับซ้อนอย่างยิ่ง เรียกได้ว่า 100 คนก็ 100 แบบ การมีความสัมพันธ์กับคน 8 ทิศ หรือ 8 กลุ่ม ด้วยกัน ซึ่งสามารถวิเคราะห์แยก กลุ่มออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 แนวดิ่ง คือด้านบน และด้านล่าง (1.เจ้าของบริษัท และ 2.บุคลากรของบริษัท) รวม 2 ทิศ ที่เกี่ยวข้องกับเรา ในฐานะที่เป็นส่วนกลางและช่วยให้การทำงานของเราง่ายขึ้น กลุ่มที่ 2 ด้านซ้าย (3.อัพไลน์ 4.วิทยากร และ 5.ดาวน์ไลน์) รวม 3 ทิศ ที่เกี่ยวข้องกับเรา ในฐานะที่มีความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์โดยตรง ทำงานร่วมกัน กลุ่มที่ 3 ด้านขวา (6.สมาชิกสายงานอื่น 8.ลูกค้า/ผู้มุ่งหวัง) รวม 3 ทิศ ที่เกี่ยวข้องกับเรา ในฐานะ องค์ประกอบ ที่ส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จ ดังนั้น เราจึงมีความจำเป็นจะต้องรู้วิธีในการบริหารและจัดการการทำงานและปฏิสัมพันธ์กับบุคคลทั้ง 8 ทิศ ดังนี้ 1.เจ้าของบริษัท (Business Owner) เจ้าของบริษัท คือ เจ้าของ ผู้ถือหุ้น และอาจรวมหมายถึง ผู้บริหารระดับสูงที่ได้รับมอบหมายในฐานะดูแลธุรกิจส่วนต่างๆ แทนด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถือว่าเป็นเสาหลักของบริษัท และอยู่เหนือเรา ในฐานะผู้ก่อตั้ง ทำให้เรามีโอกาสในการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นสมาชิก ของบริษัทนั้นๆ ได้ เทคนิคที่เราควรปฏิบัติ หรือมีต่อกลุ่มที่ 1 คือ - การให้เกียรติ เคารพนบนอบ พูดคุย หรือนำเสนอแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์เชิงธุรกิจเท่านั้น หากมีการถามไถ่สุขทุกข์ ควรอยู่ในเวลาที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น ห้ามทำตนเสมอหรืออวดอ้างตนเองในด้านที่ตนเองคิดว่าเก่งกว่า เพราะอาจคิดไปเองได้ - มีทัศนคติที่ดีและหากพูดถึงพูดถึงแต่เรื่องดีเท่านั้น อย่านินทาต่อคนอื่นทั้งในและนอกองค์กร - เชื่อมั่น ศรัทธา ในวิสัยทัศน์และการบริหาร เพื่อความสำเร็จของตนเอง l เสนอแนะในการประชุม หรือการทำงานในเรื่องที่สำคัญๆ เท่านั้น อย่าเสนอแนะเรื่องสำคัญนอกการประชุม หากไม่มีโอกาสนำเสนอเอง ก็สามารถทำเอกสาร หนังสือเสนอผ่านบุคคลที่เข้าประชุมด้วย - เสนอข้อเสนอแนะในเรื่องสินค้าโดยผ่านบริษัทเป็นตัวกลาง ที่เป็นการทำให้เกิดมาตรฐานที่ดีขึ้น เป็นการติเพื่อก่อ ไม่ใช่เพื่อการจับผิดหรือเพื่อทำลาย -สิ่งที่เราจะได้รับคือ การยอมรับในตัวเราจากเจ้าของ ผู้บริหาร และได้รับความเชื่อใจ การยอมรับ ให้ความสำคัญ ซึ่งส่งผลดีต่อการทำงานของเรา 2.บุคลากรของบริษัท (Company Staff) บุคลากรของบริษัท คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของบริษัท ซึ่งมีส่วนช่วยทำงานให้ระบบ งานต่างๆ ของบริษัทเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการทำงานของเราและทีมงาน ซึ่งเราควรมีเทคนิคต่อกลุ่มนี้ดังนี้ - เป็นมิตร เสมือนผู้ช่วยเหลือในการดำเนินงานต่างๆ อย่ามีความคิดว่า บุคคลกลุ่มนี้เป็นลูกน้องหรือคนงานที่จะต้องทำงานตามเราสั่งเด็ดขาด - เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตามความเหมาะสม โดยมิหวังผลตอบแทนพิเศษใดๆ - มีน้ำใจ ช่วยเหลืองานที่เขาทำอยู่ได้บ้าง แต่อย่าเข้าไปก้าวก่ายงานที่เป็นเรื่องรายละเอียดของบริษัท หรือเฉพาะที่เกี่ยวกับความลับ และเงินทอง เด็ดขาด - สามารถเสนอแนะการทำงานได้บ้าง หากช่วยให้การทำงานของเขาง่ายขึ้น แต่อย่าเสนอแนะเชิงอวดตนหรือทำตนข่ม สิ่งที่เราจะได้รับคือ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ความพอใจและความเต็มใจช่วยเหลือให้การทำงานของเราราบรื่น 3.หัวหน้างาน - การยอมรับนับถือ และยอมรับฟัง ในการสอนงาน การแนะนำงาน หากเรื่องใดที่เราเห็นเป็นประโยชน์ เราก็นำมาปฏิบัติ แต่หากเราไม่ถูกใจ ก็อย่าแสดงความก้าวร้าวหรือท่าทีที่ไม่เหมาะสม - ให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งคำพูดและการปฏิบัติ อย่าทำหน้าอย่างลับหลังอีกอย่าง - สื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสัมพันธ์และความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกัน - ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงาน ตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดการทำงานแบบทีมร่วมกัน - มีความสัมพันธ์อันดีทั้งในเรื่องงานและการใช้ชีวิตร่วมกันนอกเวลางานอย่างเหมาะสม ละเว้นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว - เน้นการทำงานเป็นทีม โดยให้หัวหน้างานอยู่ในสถานะของที่ปรึกษา
- เปิดเผย เปิดกว้างและจริงใจในการทำงานร่วมกัน สิ่งที่เราจะได้รับตอบ คือ ความเป็นกันเอง ความเชื่อใจ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน เพื่อให้งานของเรา และทีมงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น 5.ทีมงานใหม่ อาจลดหลั่นลงไปใต้สายงานของเราได้โดยไม่จำกัดชั้น แต่นับได้ว่ามีผลเกี่ยว เนื่องกับเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทีมงานที่สามารถส่งผลถึงรายได้หรือคอมมิสชั่นให้แก่เราได้ หากทีมงานใต้สายงานเราสามารถทำผลงานยอดขายได้ดี มีความสามารถ เราก็จะได้ผลประโยชน์ที่ตามมาจากรูปแบบผลตอบแทนด้วย เทคนิคที่เราจำเป็นจะต้องมีต่อกลุ่มนี้คือ - การเชื่อใจ การยอมรับข้อเสนอแนะ และให้โอกาสเสมอภาคกัน - ให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งคำพูดและการปฏิบัติ เสมือนสมาชิกในครอบครัว - เต็มใจในการให้ความรู้ การสอนงาน ให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยไม่หวังผลตอบแทน - มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตามความเหมาะสม - ทำตนเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน และการใช้ชีวิต - สื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสัมพันธ์และความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกัน - ร่วมทำงาน ตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดการทำงานแบบทีมร่วมกัน - เน้นการทำงานเป็นทีม โดยวางตนให้เหมาะสมในฐานะที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยง ไม่ใช่แบบหัวหน้าหรือเจ้านาย - เป็นกลางกับทีมงานสายงานต่างๆ อย่าเลือกที่รักมักที่ชัง
- เป็นมิตรกับทุกคน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกเพื่อความแตกแยกระหว่างสายงานและองค์กร เพราะจะส่งผลภาพลบในภาพรวมของบริษัท สิ่งที่เราจะได้รับตอบ คือ การยอมรับ ยกย่อง เชื่อใจ และพร้อมที่จะสนับสนุน เพื่อให้งานของเรา และทีมงานร่วมกันเป็นไปอย่าง 8.ลูกค้า/ผู้มุ่งหวัง (Customer/ Expected Consumer) ลูกค้า/ผู้มุ่งหวัง คือ กลุ่มบุคคลทั่วไป ที่เรานำเสนอขายสินค้า หรือเปิดโอกาสธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการนำเสนอขายสินค้าแล้ว และมีการซื้อสินค้าจากลูกค้านั้น ทั้งนี้เริ่มต้นในการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ เราจำเป็นจะต้องมีพื้นฐานเทคนิค ดังนี้ - เตรียมตัวพร้อมก่อนการนำเสนอ ได้แก่ ความรู้ ข้อมูล เอกสาร การแต่งกาย อุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อการนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ - ให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน เปิดเผย จริงใจ ไม่หลอกลวงหรือ ปกปิดข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า/ผู้มุ่งหวัง - เต็มใจช่วยเหลือและให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ลูกค้า - ไม่ทอดทิ้ง และติดตามถามไถ่ความต้องการและปัญหาอยู่เสมอ สิ่งที่เราจะได้รับ คือ ความเชื่อมั่น ยอมรับ รวมถึงการสานสัมพันธ์ต่อเนื่องได้ จากเทคนิคการบริหารคน สามารถตรวจสอบตนเองได้ว่า ณ วันนี้เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนในแต่ละกลุ่ม โดยต่างสถานะ ต่างรูปแบบ ซึ่งมีความต่างกันในการปฏิบัติตนต่อคนกลุ่มต่างๆ ดังนั้น เทคนิคนี้ทำให้เราสามารถจัดระบบการจัดการความสัมพันธ์ให้ได้เป็นระบบ เพื่อการนำไปสู่ความสำเร็จใน
|