สินค้าใหม่ (New Products) |
|
|
บายศรีเทพหงส์ 2 ชั้น
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจน
ถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสด เนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการ ประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดา
ให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 25/08/2557 20:06:52
|
|
|
ขันไหว้สามังคละ
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ใช้ในวาระโอกาสสำคัญๆต่างๆ บายศรี เป็นของสูงเป็นสิ่งที่มีค่าของคนไทย ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่เกิดจะจัดพิธีสังเวยและทำขวัญในวาระต่างๆ ซึ่งจะต้อง มีบายศรีเป็นสิ่งสำคัญในพิธีนั้นๆ ซึ่งเป็น ศาสนาพิธีของพราหมณ์
คำว่า ? บาย ? หมายถึง ข้าวสุก ส่วน ? ศรี ? หมายถึง มิ่งขวัญหรือสิริมงคล ดังนั้น คำว่า ? บายศรี ?จึงมีความหมายว่าข้าวอันเป็นสิริ , ขวัญข้าวหรือข้าวที่จัดเพื่อเป็นสิ่งมงคล
?บายศรีล้านนา? เป็นเครื่องสักการะที่สะท้อนให้เห็นถึง ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา บายศรี ถือเป็นเครื่องสักการะชั้นสูง ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อย ซึ่งเป็นงานประณีตศิลป์ ที่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อๆกันมา ปัจจุบัน ? บายศรี ? นิยมใช้ในพิธีที่ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล เช่น การสักการบูชา เทพยาดา พิธีบวงสรวง พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว การเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
Last Update : 25/08/2557 11:09:13
|
|
|
บายศรีขันผูกมือสามชั้น
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 20:37:04
|
|
|
บายศรีขันผูกมือ
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 20:23:35
|
|
|
บายศรีปากชาม
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 20:06:30
|
|
|
บายศรีพรมเปิด
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:58:07
|
|
|
บายศรีมุฑิตาจิต
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:49:59
|
|
|
บายศรีกำเนิดเจ้าแม่กวนอิม
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:37:29
|
|
|
บายศรีพรมสี่หน้า
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:28:27
|
|
|
บายศรีเทพบงกช
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์
อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี
นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น
ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธี
ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล
เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล
เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ
และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตา
ด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:19:02
|
|
|
บายศรีพานพุ่ม
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่าตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีนับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ด้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่ายสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:18:25
|
|
|
บายศรีเทพประยุกต์ ( เทพ 2 ชั้น )
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า
ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์
อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี
นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น
ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธี
ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสดเนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล
เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล
เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ
และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดาให้วิจิตรตระการตา
ด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 19:09:34
|
|
|
บายศรีเทพหงส์
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจน
ถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสด เนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการ ประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดา
ให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 18:22:00
|
|
|
บายศรีเทพดอกบัว
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจน
ถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสด เนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการ ประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดา
ให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 18:14:53
|
|
|
บายศรีเทพ
Brand name:บายศรีหนองป่าครั่ง
ความเป็นมาของบายศรี
บายศรีเป็นศิลปะประดิษฐ์ชั้นสูงของไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนช้อยแต่งามสง่า ตั้งแต่กระบวนการทำ จนปรากฏเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะชั้นสูงในการประดิษฐ์ อีกทั้งยังเป็นงานประณีตศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันงดงามที่มาจากจิตวิญญาณของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ในความสามารถด้านหัตถศิลป์
ที่เกิดจากภูมิปัญญาที่หลักแหลมของบรรพบุรุษไทย ได้มอบให้เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บายศรี คือ เครื่องใช้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของคนไทย ซึ่งตามประวัติความเป็นมาของบายศรีนั้น ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอน ปรากฏเพียงว่าไทยได้รับอิทธิพลพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่า บายศรี เป็นที่สถิตของเทพเจ้า และ เป็นเครื่องหมาย
แห่งความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นจึงใช้เฉพาะในพิธีมงคล
เท่านั้น และนิยมใช้ตั้งแต่พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์พระราชวงศ์ชั้นสูงตลอดจน
ถึงประชาชนทั่วไปในอดีตนิยมใช้ใบตองตานีสด เนื่องจากมีความเหนียวไม่ค่อยแตก ไม่เหี่ยวง่าย
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ทั้งนำมาพับหรือม้วนให้มีรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดี มีการ ประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้นานาชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกขจรนอกจากนี้ยังมีอาหารคาวหวานต่างๆ วางตามชั้นแต่ละชั้นของบายศรีโดยเลือกชนิดที่เป็นมงคล เช่น มะพร้าวอ่อน ไข่ต้ม ข้าวสุก กล้วยน้ำว้า แตงกวา ฝอยทองขนมชั้น ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
ในปัจจุบัน บายศรี นิยมใช้ในพิธีต่างๆ เช่น การเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ การรับน้องใหม่ของนิสิตนักศึกษาในสถาบันการศึกษา พิธีทำขวัญนาค พิธีสู่ขวัญบ่าวสาว
สำหรับความนิยมในการใช้บายศรีประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ของชาวไทยยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งรูปแบบบายศรีทั้ง 3 ภาคนั้น จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ การตกแต่งประดับประดา
ให้วิจิตรตระการตาด้วยเครื่องประกอบต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะตำแหน่งของเจ้าภาพ และโอกาสในการใช้เท่านั้น
Last Update : 21/08/2557 18:05:36
|
|
First | Previous | Next | Last
|