ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ กับความงาม ทั้งบำรุงผิว และบำรุงผม
สมุนไพรไทยหลายชนิดนั้น มีประโยชน์ทั้งในเรื่องการรักษาสุขภาพ ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่มอบให้แก่มนุษย์ ยิ่งในประเทศไทยเรา
การ
นำสมุนไพรมาใช้ ก็มีมานานหลายร้อยปี จนทำให้สมุนไพรต่างๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว สมุนไพรบางอย่างก็ปลูกได้ง่าย มีวิธีการดูแลไม่ยุ่งยาก และยังมีประโยชน์
หลากหลายเลยทีเดียว
อย่างเช่น ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมุนไพร ที่มีสรรพคุณสารพัดอย่างเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับเรื่องของความงาม เช่น
นำมาใช้เป็นเหมือนกับครีมกันแดดได้
โดยวิธีการคือ นำส่วนของใบมาผสมลงในครีมกันแดด หรือโลชั่นกันแดดที่ใช้อยู่เป็นประจำ เพราะหากใช้แต่ใบอย่างเดียว จะทำให้หน้าแห้งได้
สำหรับคนที่โดนแสงแดดเผา
จนผิวเกิดอาการแสบแดง อย่างเช่นคนที่เพิ่งกลับจากเที่ยวทะเล สามารถนำว่านหางจระเข้ส่วนที่เป็นวุ้นล้างให้สะอาดจนยางหมด (อาจนำไปแช่ในตู้เย็นสักพักก่อนก็ได้) แล้วนำไปทา
บริเวณใบหน้า หรือบริเวณที่ถูกแดดเผา ได้บ่อยครั้งตามต้องการ ก็จะช่วยบรรเทาอาการไหม้ให้ดีขึ้นได้ โดยใช้เวลาไม่นาน
ว่านหางจระเข้ มีฤทธิ์ในการช่วยสมานแผล
ที่เกิดจากสิวบริเวณผิวหน้าได้ เพราะมีวิตามินอีสูง และสามารถเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า แต่ทั้งนี้ จะได้ผลดีกับรอยดำหรือรอยแดงจากสิว ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นใหม่ๆ ได้ดีกว่ารอยที่เกิดมานานแล้ว
ว่านหางจระเข้ สามารถนำมาใช้บำรุงเส้นผมได้
โดยการนำวุ้นที่ล้างยางออกหมดแล้ว เอามาทาชโลมลงบนเส้นผม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ค่อยล้างออก หากทำเป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม และผมขึ้นดก
ดำอีกด้วย และในปัจจุบัน ก็มีผู้ที่ผลิตว่านหางจระเข้ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ในรูปแบบของครีมว่านหางจระเข้ และเจลว่านหางจระเข้ซึ่งก็มีสรรพคุณไม่แตก
ต่างกับการใช้ว่านหางจระเข้สดๆ แถมอาจจะมีส่วนผสมของวิตามินอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาผิว ได้มากขึ้นกว่าการใช้ว่านหางจระเข้เปล่าๆ ด้วยเมื่อเรารู้ถึง
ประโยชน์สารพัดของว่านหางจระเข้แล้ว หากพอจะมีเนื้อที่ว่างๆ ภายในบ้าน การนำว่านหางจระเข้มาปลูกเอาไว้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะเวลาต้องการใช้ จะได้ตัดมาใช้ได้
ทันทีนั่นเองค่ะ
|